การเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างสำหรับสร้างบ้านหรือรีโนเวทอาคารไม่ใช่เรื่องเล็ก ลูกค้าส่วนใหญ่มักพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่างานจะเสร็จเรียบร้อยตรงเวลา คุ้มค่ากับงบประมาณ และไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง
บทความนี้ เราจะพาคุณมารู้จักกับ “7 ปัจจัยสำคัญ” ที่ลูกค้าใช้ตัดสินใจเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถพัฒนาและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
เพราะความไว้วางใจจากลูกค้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ฝีมือการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความเข้าใจใน “จุดตัดสินใจ” หรือ Pain Point ที่ลูกค้าใช้พิจารณาเลือกผู้รับเหมา ดังนี้

- ประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมา
เป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นใจ ลูกค้ามักเริ่มต้นจากการค้นหาใน Google หรือดูจากรีวิวในโซเชียลมีเดีย หรือฟังจากเพื่อนแนะนำ ลูกค้าส่วนใหญ่มองหาผู้รับเหมาที่มีผลงานพิสูจน์ได้ เพราะนั่นคือสิ่งที่สะท้อนความสามารถจริง จะสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าได้
- มีโปรเจกต์ตัวอย่างที่ชัดเจน (ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ)
- รีวิวหรือคำแนะนำจากลูกค้าเก่า
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น บ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ รีโนเวท
💡 แนะนำ: ทำเว็บไซต์หรือเพจแสดงผลงาน พร้อมคำอธิบายรายละเอียดโปรเจกต์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
- ราคาและความคุ้มค่า
ไม่จำเป็นต้องถูกที่สุด แต่ทุกคนต้องการราคาที่สมเหตุสมผลและไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง เพราะลูกค้าไม่ได้ต้องการราคาถูกที่สุดเสมอไป แต่ต้องการราคาที่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ
- ใบเสนอราคาชัดเจน ไม่บวกแอบแฝง (แยกรายการวัสดุ/ค่าแรงอย่างละเอียด)
- คุ้มค่ากับคุณภาพวัสดุและงาน
- มีการเปรียบเทียบกับเจ้าอื่นอย่างโปร่งใส
💡 แนะนำ: ทำตัวอย่างใบเสนอราคาหรือเปรียบเทียบวัสดุที่ใช้อย่างชัดเจน ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
- คุณภาพงานและวัสดุ
ลูกค้ามักใส่ใจในคุณภาพของงานที่ได้รับ โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในบ้านหรือใช้งานอาคารนั้นในระยะยาว
- ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน (มีแบรนด์หรือสเปกชัดเจน)
- งานเสร็จเรียบร้อย มีรายละเอียดเนี้ยบ
- มีมาตรฐานความปลอดภัย
💡 แนะนำ: โชว์กระบวนการทำงาน และยี่ห้อวัสดุที่คุณเลือกใช้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า
- ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส
ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการว่าจ้างผู้รับเหมา โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคกังวลเรื่อง “โดนเท” หรือ “ทิ้งงานกลางทาง” ผู้รับเหมาจึงต้องสร้างความชัดเจนให้แก่ลูกค้า
- มีบริษัทหรือทีมงานที่ติดต่อได้จริง
- มีเอกสารสัญญาที่ชัดเจน
- ไม่ทิ้งงาน / ทำงานตามกำหนดเวลา
💡 แนะนำ: โปรโมตความน่าเชื่อถือผ่านผลงาน, ใบอนุญาต, รีวิว และความโปร่งใสในการสื่อสาร
- ระยะเวลาในการทำงาน
เวลาคือสิ่งมีค่า ลูกค้าจึงมักเลือกผู้รับเหมาที่สามารถทำงานได้ตามไทม์ไลน์ที่วางไว้
- งานเสร็จตรงเวลา ไม่เลื่อนส่งมอบโดยไม่มีเหตุผล
- มีการอัปเดตความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ
💡 แนะนำ: ทำแผนงานคร่าวๆ มี Timeline การทำงานให้ลูกค้าดูก่อนเริ่มงาน และส่งรายงานความคืบหน้าระหว่างงาน
- บริการหลังการขายและการรับประกันงาน
การรับประกันหลังงานเสร็จเป็นปัจจัยที่ลูกค้ามองหาอย่างมาก โดยเฉพาะงานระบบต่างๆ ที่อาจมีปัญหาภายหลัง
- มีการรับประกันโครงสร้าง/งานระบบ
- ซ่อมแซมหรือแก้ไขหากพบปัญหาหลังส่งมอบ
💡 แนะนำ: ระบุเงื่อนไขรับประกันในสัญญา และโปรโมตให้ลูกค้าเห็นเป็นจุดขาย
- การสื่อสารและการให้บริการ
ผู้รับเหมาที่สื่อสารดี มีความเป็นมืออาชีพ จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะสามารถปรึกษาและเข้าใจทุกขั้นตอนของงานได้ชัดเจน
- ติดต่อสะดวก ตอบคำถามรวดเร็ว
- อธิบายรายละเอียดงานเข้าใจง่าย
- มีการวางแผน/ให้คำปรึกษาที่เป็นมืออาชีพ
💡 แนะนำ: ใช้ช่องทางหรือการติดต่อที่ให้ลูกค้าสามารถติดต่อได้ง่ายและสะดวก และมีประสิทธิภาพ พร้อมให้ข้อมูลลูกค้าอย่างครบถ้วน
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น “จุดตัดสินใจ” ของลูกค้า เมื่อผู้รับเหมาเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร ก็สามารถปรับวิธีการนำเสนอบริการให้ตอบโจทย์ได้ตรงจุดมากขึ้น
อยากให้ลูกค้าเลือกคุณ? เริ่มต้นจากการสื่อสารจุดแข็งให้ตรงใจ!
หากคุณกำลังมองหาวิธีโปรโมตธุรกิจรับเหมาก่อสร้างให้ได้ผล ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์, Facebook, TikTok หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ “Crosswalk Agency” ยินดีช่วยวางกลยุทธ์การตลาด สร้างจุดแข็งของคุณให้โดดเด่นด้วยคอนเทนต์ที่ใช่ และกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร พร้อมทีมงานมืออาชีพที่พร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนแบบครบทีม!