Blog

” FACEBOOK ” ประกาศกฏใหม่ .. เตรียมจำกัดจำนวนโฆษณาต่อเพจ!

> เพื่อให้การลงโฆษณามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น Facebook ได้ประกาศเตรียม ” จำกัดจำนวนโฆษณา ” ต่อเพจ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2021 หรืออีกประมาณ 5 เดือนข้างหน้า และสำหรับใครที่กำลังงงว่า Facebook ได้ออกกฏนี้มีเพื่ออะไร ? ” Crosswalk Agency มีคำตอบมาให้ทุกคนค่ะ ” คำตอบของ  Facebook ได้ให้เหตุผลว่า หากเราลงโฆษณาพร้อมกันทีเดียว เป็นจำนวนที่มากเกินไป จะส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลง และเพิ่มต้นทุนการทำโฆษณาสูงขึ้น . . . ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหานี้ Facebook จึงได้มีมาตรการ และกำหนดปรเภท ของผู้ลงโฆษณาออกเป็นกลุ่มๆ ตามจำนวนเงินที่ซื้อโฆษณา Facebook ในช่วงที่ผ่านมา ตามตารางนี้   . . . และเพจสามารถดูขีดจำกัดโฆษณาสำหรับเพจได้ โดยไปที่เครื่องมือขีดจำกัดโฆษณาต่อเพจ ที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านเมนู “ตัวจัดการธุรกิจ” หากเพจของคุณมีขีดจำกัดเหลืออยู่ไม่เกิน 20% ก็สามารถไปที่แท็บ ” ขีดจำกัดโฆษณาต่อเพจ ” ใน ” ภาพรวมบัญชี ” เพื่อดูทั้งขีดจำกัดโฆษณา และวิธีที่คุณสามารถลดจำนวนโฆษณาของคุณได้ >> รู้กฏใหม่ของทาง Facebook แบบนี้แล้ว …. ไม่ต้องหวั่นใจไปนะคะ เรายังพอมีเวลาในการเรียนรู้สำหรับกฏใหม่นี้ ยังไง Crosswalk Agency ก็อยากให้เพื่อนๆ เตรียมตัวลองศึกษา และนำกลยุทธ์มาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพกันนะคะ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> Facebook For Business  หรือ Facebook For Business ” English Version ”  อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม ได้ที่ >> Crosswalk Agency  ” สนใจปรึกษาและวางแผนการตลาดออนไลน์ ” สามารถติดต่อปรึกษาได้ที่บริษัท ทางม้าลายเอเจนซี่ จำกัด โทร : 097-919-2112 หรือ Facebook Fanpage : Crosswalk – Digital Marketing Agency

สื่งที่คุณควรรู้ ! ก่อนทำ Google Ads และ Facebook Ads

สำหรับมือใหม่หลายๆคน ที่อยากเข้ามาทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ แต่ไม่รู้จะใช้ตัวช่วยสำหรับยิงโฆษณาแบบไหน ? วันนี้ Crosswalk Agency จะพาทุกคนไปรู้จักกับ Google Ads และ Facebook Ads ว่าธุรกิจของคุณควรใช้การโฆษณาออนไลน์ ผ่านทางช่องทางไหน แล้วทั้งสองอย่างนี้มันต่างกันยังไงบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ >> ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Google Ads ก่อนนะคะ จุดเด่น คือ เป็นการโฆษณาที่แสดงผลตาม Keyword ที่ผู้ใช้ได้ค้นหา ซึ่งแน่นอนว่าโฆษณาของเราต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังสนใจอยู่ด้วยเเล้ว นอกจากนั้น ยังมีรูปแบบของโฆษณาอีกหลายแบบที่จะช่วยให้คนรู้จักสินค้าได้มากขึ้น เช่น โฆษณาแบบแบนเนอร์ที่จะไปโผล่ตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือที่เรียกว่า GDN >> ต่อมาทำความรู้จักกับ Facebook Ads จุดเด่น คือ สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายเองได้ เป็นการยิงโฆษณาตามความสนใจ เเละพฤติกรรมของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนท์รูปภาพ, คอนเทนท์วิดีโอ และ Carousel อีกทั้งยังปฏิเสธไม่ได้ว่า คนส่วนใหญ่ได้มามีส่วนร่วมกันเยอะในแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งอาจจะสร้างยอดขายได้เร็วพอสมควร ความเเตกต่างของ Google Ads และ Facebook Ads หลังจากดูตารางเเล้ว หากยังมีคำถามอยู่ ว่าควรใช้อันไหนมากกว่ากัน คงไม่มีคำตอบที่ตายตัวนะคะ เพราะมันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของธุรกิจคุณด้วย ว่า ต้องการโฆษณาเพื่อสิ่งใด จะเป็นการเพิ่มการรับรู้เเละการเข้าถึง หรือต้องการขายเลย ในส่วนนี้คุณต้องประเมินความต้องการของคุณเองด้วยนะคะ ดังนั้น หากคุณยังไม่มั่นใจในทักษะ ก็สามารถมองหาทีมงานรับทำการตลาดออนไลน์ ที่สามารถปรึกษาการตลาดไปด้วยได้ มาเป็นผู้ช่วยเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ ไปต่อยอดธุรกิจได้อีกในอนาคตนะคะ —- อ่านบทความการตลาดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ >> CrosswalkAgency —- สำหรับท่านใดที่สนใจปรึกษาและวางแผนการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อปรึกษาได้ที่บริษัท ทางม้าลายเอเจนซี่ จำกัด โทร : 097-919-2112 หรือ Facebook Fanpage : Crosswalk – Digital Marketing Agency

Google-Data-Studio
Google Data Studio คืออะไร ?

Google Data Studio คืออะไร ? Google Data Studio คือ เครื่องมือที่ช่วยในการรายงานผล จากข้อมูลที่มีตัวเลขมากๆ อ่านค่อนข้างยาก ให้ออกมาเป็นรูปภาพเพื่อง่ายต่อความเข้าใจ โดยนำข้อมูลมาสร้างเป็น กราฟ, แผนภูมิ, Heat map, ตาราง, แผนที่ ฯลฯ ช่วยให้เห็นภาพข้อมูลอย่างชัดเจน สามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกได้อย่างง่ายดายและสวยงาม นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถทำการแก้ไขการรายงานผลได้แบบ Real time อีกด้วย ภาพรวมในการทำงานของ Google Data Studio – เตรียมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ (Data) เนื่องจาก Google Data Studio เป็นเครื่องมือที่ช่วยรายงานผล ดังนั้นการที่เราจะนำข้อมูลมากมายมาวิเคราะห์ ตีความ ได้นั้นต้องมีการเก็บข้อมูลที่ดีและแม่นยำก่อน เพราะการแสดงผลจะอ้างอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ – เชื่อมโยงข้อมูล (Connect) คือการดึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูล (Data Source) ที่เราต้องการนำมาใช้ในการแสดงผล รวมถึงสามารถเลือกเขตข้อมูล (Field) ให้แสดงผลตามที่ต้องการได้อีกด้วย -เลือกรูปแบบ (Templates) Google Data Studio มี Templates ที่ใช้ในการนำเสนอเป็นภาพที่เข้าใจง่าย ให้เลือกหลากหลายรูปแบบและสามารถตกแต่งครีเอทได้อย่างสวยงาม – การส่งต่อข้อมูล (Share) สามารถส่งต่อข้อมูลนำเสนอให้เพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทำข้อมูลให้ออกมาเป็นภาพที่เข้าใจง่าย สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน   ข้อดีของ Google Data Studio 1. ไม่เสียค่าใช้จ่าย 2. ช่วยแก้ปัญหาการโหลดหนักๆ ของฐานข้อมูลในการแสดงผล 3. รองรับฐานข้อมูลได้หลายรูปแบบ 4. ดึงข้อมูลได้แบบ Real time จากหลังบ้าน ไม่ต้องนำข้อมูลมากรอกเอง 5. เข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา 6. จำกัดการเข้าถึงข้อมูลในแต่ละส่วนได้ 7. สร้างการนำเสนอที่หลากหลายสวยงามง่ายต่อการใช้งาน 8. สามารถแชร์ให้เพื่อนร่วมงานรวมถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและ Responsive ในทุกอุปกรณ์ 9. สามารถดึงข้อมูลสรุปรายงานสถิติ ทั้งทาง Facebook Ads และ Google Ads ได้   เริ่มต้นใช้งาน Google Data Studio > datastudio.google.com หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ … Google Analytics Academy   สำหรับท่านใดที่สนใจปรึกษาและวางแผนการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อปรึกษาได้ที่บริษัท ทางม้าลายเอเจนซี่ จำกัด โทร : 097-919-2112 หรือ Facebook Fanpage : Crosswalk – Digital Marketing Agency

google course
Google ใจดี “แจกคอร์ส” เรียนฟรี! แถมมีใบรับรอง!

… เอาละค่ะ ช่วงนี้ ใครที่อยู่ว่างๆ ได้เวลาอัพสกิลเพิ่มความรู้กันแล้วนะ เพราะบริษัทชื่อดังอย่าง Google เค้าใจดีแจกคอร์สออนไลน์ให้เรียนฟรี และที่สำคัญ เมื่อเรียนจนจบคอร์ส ก็จะได้รับใบรับรองการเรียนอีกด้วย ซึ่งสามารถนำไปใช้ประกอบการสมัครงานที่เกี่ยวข้องได้ ‼ … ถ้าใครสนใจอยากเรียน ขั้นตอนการสมัครก็ไม่ยาก เพียงเเค่กดลงทะเบียน หลังจากนั้นก็เริ่มเรียนได้เลย จะมีคอร์สไหนน่าสนใจบ้าง CROSSWALK  AGENCY ขอพาทุกคนไปดูพร้อมกันเลย 1. Google Analytics for Beginners มีทั้งหมด 4 Unit กดที่ลิงค์ >> Google Analytics for Beginners 2. Advanced Google Analytics มีทั้งหมด 4 Unit กดที่ลิงค์ >> Advanced Google Analytics 3. Google Analytics for Power Users มีทั้งหมด 4 Unit กดที่ลิงค์ >> Google Analytics for Power Users 4. Getting Started With Google Analytics 360 มีทั้งหมด 7 Unit กดที่ลิงค์ >> Getting Started With Google Analytics 360 5. Introduction to Data Studio มีทั้งหมด 4 Unit กดที่ลิงค์ >> Introduction to Data Studio 6. Google Tag Manager Fundamentals มีทั้งหมด 4 Unit กดที่ลิงค์ >> Google Tag Manager Fundamentals   อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> Learn analytics with free online courses หรืออ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ >> Crosswalk Agency   สำหรับท่านใดที่สนใจปรึกษาและวางแผนการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อปรึกษาได้ที่บริษัท ทางม้าลายเอเจนซี่ จำกัด โทร : 097-919-2112 หรือ Facebook Fanpage : Crosswalk – Digital Marketing Agency

สรุป ” เทรนด์ Facebook ช่วงครึ่งปีแรก “

โลกดิจิทัลในครึ่งแรกของปี 2020 พูดถึงภาพรวมสถิติ และเทรนด์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นอย่างไรบ้างมาดูกันค่ะ จากภาพรวมของ Facebook ในระดับโลกจะเห็นว่ามีผู้ใช้งานมากกว่า 2 พันล้านคน แต่ในขณะเดียวกันก็มีแค่ 35% ของผู้ใช้งานเท่านั้นที่โฆษณาสามารถเข้าถึงได้ แถมยังถูก Dominate ด้วยผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ด้วยสัดส่วนของผู้ชายในแพลตฟอร์มนี้ ที่สูงมากถึง 56% เลยทีเดียว และประเทศไทย ติดอันดับประเทศที่มีผู้ใช้งาน Facebook มากเป็นอันดับ 8 ของโลก เมื่อดูจากข้อมูลผู้ใช้งานแยกตามช่วงอายุและเพศจะเห็นได้ชัดว่า ในช่วงอายุ 18-44 ปี ของผู้ใช้เฟซบุ๊กนั้นมีสัดส่วนของผู้ใช้สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดมาก คนไทยกด Like Facebook อยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยโลกที่เดือนละ 12 ครั้ง คนไทยคลิ๊ก Facebook Ad เฉลี่ยเดือนละ 17 ครั้ง Facebook Post Engagement Benchmarks ค่าเปรียบเทียบที่นักการตลาดหลายคนชอบถามหาว่า คนอื่นโพสกันได้อยู่ประมาณเท่าไหร่ รายงานฉบับนี้มีข้อมูลให้เป็นตัวเปรียบเทียบแล้วครับ จากข้อมูลจะเห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้ว การโพสหนึ่งครั้งจะมี Engagement เกิดขึ้นประมาณ 0.21% แต่ถ้าเป็นวิดีโอจะสูงสุดอยู่ที่ 0.26% ตามติดมาด้วยโพสประเภทรูปภาพที่จะเรียก ​Engagement ได้ 0.25% ยังมีข้อมูลอีกหลายส่วนที่น่าสนใจ และยังมีช่องทางแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่เกี่ยวกับคนไทย ไม่ว่าจะ Instagram, Twitter, TikTok ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจนั้นๆว่าละเลือกใช้ช่องทางไหน ในการทำแผนการตลาดเพื่อให้ธุรกิจนั้นๆเป็นที่รู้จักในวงกว้างนั่นเอง . อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> สรุป ” เทรนด์ Facebook ช่วงครึ่งปีแรกจากรายงาน Digital 2020 – We Are Social “ หรืออ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ >> CrosswalkAgency . สำหรับท่านใดที่สนใจปรึกษาและวางแผนการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อปรึกษาได้ที่บริษัท ทางม้าลายเอเจนซี่ จำกัด โทร : 097-919-2112 หรือ Facebook Fanpage : Crosswalk – Digital Marketing Agency

” Facebook Ads ” เทคนิคสร้างโฆษณาเพื่อดึงดูดใจลูกค้า

ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าการสร้างโฆษณาบนโลกออนไลน์อย่าง Facebook มีส่วนช่วยให้แบรนด์ของเรามีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็ว และสามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น แต่ก่อนจะเริ่มทำจริง หลายๆคนอาจจะมีคำถามว่า ต้องเริ่มทำจากตรงไหนก่อน และจะคุ้มกับการสร้างยอดขายแค่ไหน เมื่อลงทุนในส่วนนี้ไป วันนี้  Crosswalk Agency มีคำตอบค่ะ > อันดับแรก ก่อนที่เราจะทำโฆษณาออนไลน์นั้น ต้องเริ่มรู้จักกลุ่มลูกค้า ของแบรนด์ตัวเองก่อน ซึ่งนับว่าเป็นพื้นฐานอย่างแรกเลยของกลุ่มทำธุรกิจ เพราะเมื่อรู้จักแล้ว จะสามารถเข้าถึงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย และเมื่อคุณสามารถวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าได้ดีขึ้น ก็จะสามารถสร้างกลยุทธ์ทางการตลาด โดยมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้คุณประหยัดการลงทุนการโฆษณาลง >> เมื่อรับรู้แล้วว่าใคร คือ กลุ่มเป้าหมาย การวางแผนทำ Ads แคมเปญเพื่อการตลาดขึ้นมา ต้องดูว่าจุดประสงค์ของการทำ Ads ของแคมเปญนั้น ๆ คืออะไร ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้าง Ads ควรคำนึงถึงการรับรู้ของแบรนด์ และเป้าหมายของ Conversion ที่จะได้รับ *สามารถอ่านบทความ Conversion คืออะไร ? ได้ที่ https://crosswalkagency.com/conversion/   นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเริ่มสร้าง Ads คือ ประเภทคอนเทนต์ที่ต้องการนำเสนอ ซึ่งเรามีตัวอย่างมาแนะนำกันค่ะ 1. รูปภาพ ⁂ ภาพนิ่งที่สามารถสื่อถึงสิ่งที่เราอยากให้กลุ่มเป้าหมายรับทราบอย่างรวดเร็วที่สุด และต้องสะดุดตาจนอยากอ่าน 2. วิดิโอ ⁂ ภาพโฆษณาแบบเคลื่อนไหว จะช่วยเพิ่มความสนใจมากยิ่งขึ้น 3. Carousel ⁂ รูปแบบการโฆษณาที่สามารถใส่รูปได้หลาย ๆ รูป และลูกค้าสามารถเลื่อนดูรูปได้ทีละรูป 4. Lead Generation  ⁂ เป็นรูปแบบการสร้างกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า เช่น การสมัครสมาชิก การขอรับสิทธิพิเศษ การรับข่าวสารเพิ่มเติม จากช่องทางอิเมล เป็นต้น   และ Crosswalk ขอแอบบอกอีกนิด การทำ  Ads นั้นมีกลยุทธ์อีกอย่างหนึ่ง คือ สามารถโฆษณาซ้ำเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้แก่ผู้ที่เคยเข้ามาดูแบรนด์ของเราไปแล้ว โดยกลุ่มเป้าหมายจะเห็นสินค้าหรือ Ads ซ้ำ ๆ ทำให้แบรนด์มีโอกาสในการขายสินค้า ให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น ซึ่งกลยุทธ์นี้จะเรียกว่า การทำ Remarketing หรือการ Retargeting ค่ะ . สำหรับท่านใดที่สนใจปรึกษาและวางแผนการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อปรึกษาได้ที่บริษัท ทางม้าลายเอเจนซี่ จำกัด โทร : 097-919-2112 Facebook Fanpage : Crosswalk – Digital Marketing Agency

” 7 วิธี ” การตลาดออนไลน์ ที่ช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น

ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโลก Digital หรือการตลาดออนไลน์นั้นใหญ่มากๆ การทำการตลาดออนไลน์อย่างหลากหลาย จึงเป็นเหมือนการเปิดโอกาส ให้คนที่พบเห็น สามารถเข้ามาใช้บริการหรือเป็นลูกค้าได้ ซึ่งหากที่ผ่านมาคุณใช้เพียง Facebook หรือ Line@ ในการทำช่องทางการตลาด ถือว่าคุณเพิ่งจะใช้ศักยภาพของการตลาดออนไลน์เพียง 10% ของทั้งหมด ดังนั้น Crosswalk Agency เราขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับ ” 7 วิธี ” การตลาดออนไลน์ ที่ช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น เพื่อยกระดับร้านค้าหรือธุรกิจของคุณให้ครบวงจร เพื่อให้ได้ผลการตอบรับอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดกันค่ะ Mobile & Apps Marketing เป็นการทำการตลาดผ่านโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โดยเน้นการปรับหน้าเว็บไซต์ให้สวยงามบนหน้าจอหลากหลายขนาด และการทำแอปพลิเคชั่นที่เอื้อต่อความสะดวกสบายของกลุ่มลูกค้า โดยการพัฒนาฟังก์ชันต่าง ๆ  ให้ตอบโจทย์การใช้งานบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนต่าง ๆ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และตัวของลูกค้าเองด้วย Online PR เป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างทัศนคติ ต่อตัวแบรนด์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณมีชื่อเสียง และ สามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นอีเมล เว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย Website & Landing Page ปัจจุบันเวลาจะค้นหาอะไรสักอย่าง ก็มักจะเสิร์ชหา แล้วเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ของแบรนด์เอง ซึ่งหากแบรนด์ของคุณไม่มีหน้าเว็บไซต์ ก็ทำให้เสียโอกาสการขายที่นั้นไปได้ แต่หากคุณมีเว็บไซต์อยู่แล้ว และ มีดีไซน์ที่ทันสมัยและการจัดวางเนื้อหาที่น่าดึงดูดใจ ก็อาจสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและได้รับผลตอบรับที่จากลูกค้าได้เช่นกัน Content Marketing การนำเสนอข้อมูลของแบรนด์ของคุณ นอกจากจะต้องให้ความสำคัญกับเนื้อหาและคุณภาพแล้ว ยังต้องให้ความสนใจกับกระแสในปัจจุบันอีกด้วย ไม่ใช่แค่มีเนื้อหาข้อมูลจากแบรนด์เพียงด้านเดียว E-mail Marketing การทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางอีเมล หรือ E-mail Marketing คือการแจ้งอีเมลที่เป็นข่าวสาร โปรโมชัน ส่วนลดพิเศษเฉพาะลูกค้าหรือสมาชิก ซึ่งถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายหลัก Social Media Marketing การใช้สื่อสังคมออนไลน์ ในการให้ข้อมูลความรู้ กระตุ้นให้เกิดการซื้อ พูดคุยหรือแจ้งโปรโมชัน เป็นการสื่อสารให้เกิดความเป็นกันเองกับลูกค้า Online Video & Viral การทำการตลาดที่แสดงไอเดียโฆษณาผ่านคลิปวิดีโอ อาจเพิ่มยอดขายได้ เนื่องจากแบรนด์ได้สร้างข้อมูลการรับรู้ผ่านทางคลิปวิดิโอให้กับทุกคนที่พบเห็น โดยคลิปวิดีโอส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาที่ออกแบบมาให้ตรงตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมายหลัก เพื่อให้เกิดกระแสแบบปากต่อปาก การกดไลก์ กดแชร์บนโลกออนไลน์ . >> เมื่ออ่านจนครบ 7 เครื่องมือที่ใช้ในการทำการตลาดออนไลน์แล้ว Crosswalk Agency อยากจะขอบอกอีกหน่อยว่า Digital Marketing ยังมีอีกหลากหลายฟังก์ชันที่จะช่วยให้การทำการตลาดออนไลน์ทำงานได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพียงเรียนรู้และปรับตัวให้ทันสมัย เพื่อตอบสนองกับความต้องการผู้บริโภคได้อย่างทุกรูปแบบ . อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ >> CrosswalkAgency สำหรับท่านใดที่สนใจปรึกษาและวางแผนการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อปรึกษาได้ที่บริษัท ทางม้าลายเอเจนซี่ จำกัด โทร : 097-919-2112 Facebook Fanpage : Crosswalk – Digital Marketing Agency

ปรับโครงสร้างคีย์เวิร์ดให้ผ่านฉลุย ติดอันดับการค้นหา ด้วย “Yoast SEO”

การเขียนบทความให้ติดอันดับการค้นหาของ Google ต้องอาศัยการทำ SEO เพื่อดันบทความให้อยู่ในอันดับการค้นหา แต่การเขียนบทความให้ติดอันดับการค้นหาของ Google ยังมีอีกหนึ่งตัวช่วยใน WordPress ที่ชื่อว่า “Yoast SEO” ซึ่งปลั๊กอินตัวนี้จะเป็นตัวชี้ ว่าบทความของเรามีคุณภาพ ตรงตามหลัก SEO หรือไม่? โดยแต่ละสถานะจะเปรียบเหมือนกับไฟจราจรที่มี 3 สี แล้วแต่ละสีมีหมายความอย่างไร? ตามมาดูกันเลย 1. ไฟแดง — หยุด ดูจุดผิดพลาด มันจะแจ้งทุกอย่างว่าบทความที่เราเขียนไป ตรงกับ Focus Keyword หรือไม่ บทความเราจัดวางให้อ่านง่ายหรือไม่ ? การตั้งชื่อเรื่องสัมพันธ์กับเนื้อหาหรือเปล่า ? เป็นต้น หรือมี Keyword กระจายทั่วบทความหรือกระจุกติดกัน 2. ไฟเหลือง — ตรวจทานแล้วแก้ไข ได้ไฟเหลืองก็แสดงว่าถูกไปครึ่งหนึ่งแล้ว เหลือแค่ปรับแต่งอะไรเล็กน้อยก็พอ ซึ่งสามารถดูได้จากรายละเอียดของตัว Yoast SEO แล้วแก้ไข เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบทความนั้นๆ 3. ไฟเขียว — ผ่านฉลุย หลังจากติดตั้ง Plug in ตัวนี้ไปแล้ว มันอาจจะแจ้งว่า ชื่อเรื่อง บทนำ สัมพันธ์กับ Focus Keyword แล้ว เพราะบทความอ่านง่าย ไม่ยาวเกินไป สามารถใส่ลิงก์ Reference จากเว็บอื่นด้วยก็ดี หมดปัญหากวนใจ . ถ้าเรารู้เทคนิคการเขียนแบบ SEO แล้ว การจะเขียนบทความให้ได้ไฟเขียวก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ยิ่งมี “Yoast SEO” ด้วยแล้ว ก็เหมือนมีผู้ช่วยที่จะคอยแก้จุดต่าง ๆ ที่ผิดพลาด ให้ข้อเสนอแนะ และปรับโครงสร้างบทความของเรา เพื่อให้ตรงตามหลักของ SEO และที่น่าสนใจยังมีส่วนสนับสนุนให้บทความของเราติดอันดับการค้นหาอีกด้วยครับ . อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ >> Yoast SEO หรืออ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม >> CrosswalkAgency . สนใจปรึกษาทำการตลาดออนไลน์ ติดต่อ ? 097-919-2112 หรือ Facebook Fanpage : Crosswalk – Digital Marketing Agency

Comment Insight
ข้อมูลเชิงลึกของคอมเมนต์ หรือ Comment Insight

ทาง Facebook เตรียมเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาใหม่ เรียกว่า “ข้อมูลเชิงลึกของคอมเมนต์ หรือ Comment Insight” ให้เราสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนการตลาดได้ โดยฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “Comment Insight” จะเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับโพสต์ที่เราคอมเมนต์ โดยที่น่าสนใจ คือ เราสามารถรู้จำนวนความแตกต่างด้านการตอบสนองของลูกค้าในโพสต์ที่เราคอมเมนต์ เทียบกับโพสต์คล้ายกันที่เราไม่ได้คอมเมนต์ (Change in reaction) และรู้จำนวนความแตกต่างระหว่างจำนวนการมองเห็นของโพสต์ที่เรามีการคอมเมนต์โต้ตอบ เทียบกับจำนวนการมองเห็นของโพสต์ที่คล้ายกันที่เรายังไม่ได้คอมเมนต์โต้ตอบเลย (Change in post impression) สรุป   ฟีเจอร์ “Comment Insight” นี้ จะช่วยเป็นตัวชี้วัดให้เราได้เห็นภาพชัดว่าการคอมเมนต์ลงไปในโพสต์ของเรา จะมีผลต่อการมีส่วนร่วม (Engagement) และ การถูกมองเห็น (Impression) ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าผู้ติดตามของเรามีลักษณะอย่างไร และเราควรทำ Ads แบบไหนจึงจะเหมาะสม   สนใจปรึกษาทำการตลาดออนไลน์ ติดต่อ ? 097-919-2112 หรือ Facebook Fanpage : Crosswalk – Digital Marketing Agency

7 แผน การตลาดออนไลน์ ” สำหรับธุรกิจอสังหาฯ “

แผนการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ปัจจุบัน #ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะโครงการใหญ่หรือโครงการเล็ก แน่นอนว่าการแข่งขันทางด้านการตลาดมีสูงมาก ยิ่งเมื่อต้องก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง 4.0 ที่มีเทคโนโลยี ทันสมัยและใหม่มากขึ้นตลอดเวลา การจะทำตลาดแบบเดิมๆ อาจจะไม่ก่อให้เกิดผลกำไรมากกว่าเดิมนัก ดังนั้น การปรับตัวให้ธุรกิจ มีช่องทางการทำการตลาดแบบใหม่มากขึ้น ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่ไม่ว่าธุรกิจไหนก็ควรต้องลงมือทำ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอสังหาฯ ก็เช่นกัน ซึ่งการตลาดแบบใหม่ที่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง คือการทำการตลาดแบบออนไลน์ ที่สามารถส่งผลให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้าง กระจายการรับรู้ การคิดและการตัดสินใจให้กับผู้ที่สนใจ และถ้าหากว่าในวันนี้ธุรกิจของคุณ ยังไม่ได้ก้าวเข้ามาสู่การตลาดออนไลน์อย่างเต็มตัว และไม่ได้เริ่มศึกษา ลงมือทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ” บอกได้คำเดียว คุณได้ก้าวช้ากว่าคู่แข่งไปแล้วหลายก้าว!!! ” Crosswalk Agency ที่ปรึกษาและวางแผนการตลาดออนไลน์ ได้รวบรวมข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับ 7 แผนการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาฯ มาให้ได้ศึกษาและตัดสินใจเพื่อความก้าวหน้าในธุรกิจ 1. การทำ Lead Generation คือ การหาข้อมูลของลูกค้า ผ่านการใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ เพราะเป็นข้อมูลของลูกค้าที่สนใจในสินค้าและบริการจริงๆ สามารถทำได้หลายช่องทาง ทั้ง Landing Page , การทำแถบเมนู Contact Us เพื่อให้ลูกค้ากรอกข้อมูลติดต่อกลับ หรือรวมไปถึงการใช้ Facebook Fanpage เป็นสื่อกลางในการติดต่อกับลูกค้า ดังนั้น การได้ข้อมูลของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ก็จะสามารถนำมาวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนด้านการตลาดออนไลน์ให้กับธุรกิจอสังหาฯได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเจาะกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด ด้วยวิธีที่เหมาะสม พร้อมช่วยให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 2. ยิงโฆษณา (ยิง Ads.) การยิงโฆษณาหรือการ “ยิง Ads” เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาฯ จะทำให้ธุรกิจมีตัวตนมากขึ้นบนโลก สามารถรู้จักและรับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์ของเรา ซึ่งการยิง Ads. ทำได้ในช่องทาง Facebook , Google , Youtube และ Line และให้ผลลัพธ์ที่ดีได้ตามลำดับ ส่วนกลยุทธ์ในการยิง Ads. จะขึ้นอยู่กับ Buyer Persona ของกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นอย่างไร หากกำหนดไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากยิ่งขึ้น 3. ใช้โปรโมชั่นเป็นตัวดึงดูด โดยเฉพาะโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดใจ ไม่ว่าจะเป็นลด แลก แจก แถม ต้องเกิดจากการวิเคราะห์ Buyer Persona มาก่อนเช่นกัน ถึงจะสามารถกำหนดโปรโมชั่นให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด หรืออาจเกิดจากการวิเคราะห์ธุรกิจของเรา ว่าเหมาะสมกับโปรโมชั่นแบบไหนมากกว่ากัน 4. ปิดการขายไว ด้วยการสร้างอสังหาฯ ในราคา 2-3 ล้านบาท จากผลการสำรวจ การขายอสังหาฯที่มีมูลค่าประมาณ 2-3 ล้านนั้น จะสามารถปิดการขายและปิดโครงการได้เร็วมากกว่าอสังหาฯ ที่มีมูลค่าสูงกว่านี้ เนื่องจากปัจจุบัน “วัยกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว” มีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเกิดความต้องการซื้ออสังหาฯในราคาที่สามารถรับผิดชอบได้ ซึ่งจะทำให้อสังหาฯที่มีราคา 2-3 ล้านนี้ ขายออกได้ไวกว่าช่วงราคาอื่น 5. ใช้ Customer Review หลากหลายโครงการบ้าน สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น หากมีการรีวิวจากผู้ใช้จริง โดยรีวิวนี้ต้องแสดงถึงความรู้สึกที่ดีในการใช้สินค้าและบริการของเรา ให้แก่ลูกค้าคนอื่นๆผ่านช่องทางการตลาด ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจในการซื้อมีมากยิ่งขึ้นได้ 6. การสร้างสรรค์คลิปวีดิโอ สำหรับใช้ในการโฆษณา การดึงดูดลูกค้าด้วยการทำการตลาดออนไลน์ ด้วย “รูปภาพโฆษณา” เป็นที่สนใจอันดับแรกๆ ดังนั้นจึงต้องใช้รูปโฆษณาที่สวยงามและน่าสนใจ ให้ลูกค้ารู้สึกอยากเข้ามาอ่านหรือชมข้อมูลเพิ่มเติม แต่การนำเสนอวีดิโอ เผยให้เห็นความสวยงามของส่วนต่างๆของอสังหาฯ ในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว ก็จะเป็นการเน้นย้ำให้กับลูกค้าที่สนใจ มั่นใจในการเลือกซื้อสินค้าและบริการมากขึ้นนั่นเอง 7. การหา Consultant มาช่วยในการทำการตลาดออนไลน์ การมีที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์และความสามารถสูงในการวางกลยุทธ์ทางการตลาด วิเคราะห์หากลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการยิง Ads. จะช่วยให้สามารถทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด ฉะนั้น อย่ารอช้าค่ะ การทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ไม่ใช่เรื่องยาก แค่มีทีมที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้วิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์กับธุรกิจคุณมากที่สุด