Category: Uncategorized

มาเก็ตติ้งชวนเม้าท์! Meta แคมเปญ Ads ไม่เล่นกับจุดด้อย

เมื่อไม่นานที่ผ่านมาหลายคนน่าจะต๊กใจที่จู่ ๆ FACEBOOK กับ INSTAGRAM ก็เอ๋อเร่อกันถ้วนหน้า พาเสียวสันหลังวาบว่าจะโดนแฮกเกอร์สอยแอคเคาน์ตัวเองไปซะเเล้ว แต่พอเช้ามาทุกอย่างก็เป็นปกติสุข เพราะ Meta ได้อัปเดตอัลกอริทึม(อีกแล้ว) วันนี้จะมาชวนเม้าท์เทคนิคไม่ลับสำหรับยิง Ads ไม่โดน Reject กันจ้า   การสร้างชุดโฆษณาบน Meta นั้นมีกฏเหล็กคือตัวโฆษณาจะต้องไม่ละเมิดมาตรฐานชุมชนทั้งของ Facebook และ Instagram! โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับรูปลักษณ์ภายนอกและสุขภาพของกลุ่มธุรกิจคลินิกความงามทั้งหลาย ชุดโฆษณาของคลินิกความงามควรหลีกเลี่ยงคอนเทนต์ที่อาจจะส่งผลต่อความรู้สึกของ Audience ดังนี้ ทำให้ผู้อื่นรู้สึกแย่กับตัวเอง ชี้จุดด้อยเพื่อโน้มน้าวในการซื้อสินค้าหรือบริการ การใช้รูปภาพ Before – After เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ สนับสนุนหรือส่งเสริมรูปลักษณ์ทางร่างกายในเชิงลบ ใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นใจในตนเองเพื่อขายสินค้าหรือบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานความงามบางอย่าง ข้อความที่สร้างความขุ่นเคือง ซึ่งอาจทำให้ผู้คนรู้สึกต่อรูปลักษณ์ของตนในแง่ลบ ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่ออาหารหรือการออกกำลังกาย มีการเหยียดรูปร่างไม่ว่าประเภทใดก็ตาม   เนื่องจาก Meta ต้องการให้ User ได้รับประสบการณ์ดี ๆ เมื่อเห็นโฆษณาบนแพลตฟอร์ม FACEBOOK กับ INSTAGRAM ทำให้การสร้าง Ads ของกลุ่มธุรกิจคลีนิกความงามมีเงื่อนไขที่ค่อนข้างเข้มงวดกว่าธุรกิจอื่น ๆ    สำหรับคลินิกความงามที่ต้องการสร้าง Ads โฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้า อาจจะต้องแสดงความจริงใจหรือระบุข้อมูลที่ชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ดีในการทำโปรแกรมดูแลต่าง ๆ รวมทั้งเน้นสร้างสรรค์คอนเทนต์ในเชิงบวกมากกว่าใช้จุดด้อยของลูกค้ามาเป็นจุดขาย ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการโดน Reject ชุดโฆษณา และความเสี่ยงต่อการโดนแบนจากการละเมิดกฏของ Meta แต่ถ้าไม่อยากปวดหัวเรื่องยิง Ads แล้วโดนรีเจ็ก มาหา Crosswalk Agency พร้อมซัพพอร์ตและให้คำปรึกษาเรื่องการยิง Ads และคอนเทนต์ที่ดีสำหรับสำหรับคลินิกความงาม ด้วยความเชี่ยวชาญเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 10 ปี พร้อมช่วยสร้าง Branding วางแพลน Marketing และมีทีม Production คุณภาพให้บริการเพื่อสร้างสรรค์ธุรกิจของคุณให้เติบโต สอบถามแพ็คเกจพร้อมรับราคาพิเศษคลิกเลย ที่นี้

มาร์เก็ตติ้งชวนเม้าท์! E-mail marketing กลยุทธ์ธุรกิจ B2B ไม่มี OUT

หลายคนอาจจะจะคิดว่า E-mail Marketing เป็นกลยุทธ์การทำการตลาดแบบ Old School ในยุคปัจจุบันที่มีสื่อโซเชียลต่าง ๆ บนโลกออนไลน์มากมายที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าการส่งอีเมล์ ซึ่งในเชิงการทำการตลาด Bussiness to Bussiness นั้น การส่ง E-mail marketing ยังคงเป็นการทำการตลาดที่ได้มีประสิทธิภาพอยู่ แต่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ดูทันยุคทันสมัยมากยิ่งขึ้น   นักการตลาดบางคนก็อาจจะไม่เห็นด้วยกับการทำการตลาดโดยใช้ Email marketing ซึ่งก็อาจจะไม่ผิดที่หลายคนคิดแบบนั้น เพราะอาจจะมีความรู้สึกไม่ชอบเวลาได้รับอีเมล์มากเกินไปจนรก Inbox ทำให้ต้องคอยลบอยู่บ่อย ๆ หรือลูกค้าบางคนอาจจะลบ Email marketing ออกโดนไม่ได้อ่านเนื้อหาด้านในก่อนด้วยซ้ำ จนรู้สึกเสียเวลาเปล่าในการทำ Email marketing นั่นเอง   Email Marketing  คือ กลยุทธ์การตลาดที่ใช้อีเมล์เป็นช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อส่งข้อความทางการตลาดเชิงพาณิชย์หรือส่งข้อมูลที่มีคุณค่าให้กับผู้รับ เป้าหมายของ Email Marketing คือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่ง Email Marketing ยังเป็นการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพในการทำธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) หากแบรนด์สามารถออกแบบ Content ใน Email ได้อย่างน่าสนใจและเหมาะสมกับตัวธุรกิจ   กลยุทธ์การทำ Email Marketing การระบุกลุ่มเป้าหมาย: ก่อนที่จะส่งอีเมล์, ควรระบุกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน เช่น บริษัทในอุตสาหกรรมเฉพาะหรือขนาดของธุรกิจที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ ออกแบบเนื้อหาที่เหมาะสม: จัดทำเนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น บทความเกี่ยวกับแนวโน้มในอุตสาหกรรมสำหรับธุรกิจอุตส่าหกรรม บทความความรู้เกี่ยวกับการตลาดสำหรับแบรนด์สินค้า เป็นต้น ดีไซน์ที่แปลกใหม่ไม่ดูน่าเบื่อ: เนื้อหาที่ดูจริงจังมากเกินไปจนเหมือนขายตรงก็อาจจะทำให้ไม่ดูน่าสนใจ หากเพิ่มลูกเล่นด้วยการดีไซน์หรือรูปภาพที่สื่อสารให้เข้าใจง่ายขึ้น อาจจะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าอยากรู้ข้อมุลเพิ่มเติม ช่วงเวลาในการส่งอีเมล์ที่เหมาะสม: กำหนดเวลาที่เหมาะสมในการส่งอีเมล์ กำหนดส่งในวันและเวลาที่มีความน่าสนใจสูงสุดสำหรับกลุ่มเป้าหมาย การติดตามและวัดผล: ติดตามการตอบกลับและการกระทำของผู้รับอีเมล์ เพื่อวัดประสิทธิภาพของแคมเปญ การใช้เครื่องมือวัดผลเช่น Google Analytics เพื่อวิเคราะห์การเปิดอีเมล์ อัตราการคลิก และการเข้าชมเว็บไซต์ เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงให้ Email Marketing มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในอนาคต   ข้อดีของการทำ Email Marketing สำหรับ B2B กำหนดเป้าหมายได้อย่างตรงจุด: การทำโฆษณาบนสื่อโซเชียลฯ อาจจะกระจายเนื้อหาได้มากกว่า แต่ไม่ได้แปลว่าจะตรงกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ B2B แบบ 100% การส่งอีเมล์จึงสามารถกำหนดกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากกว่า ต้นทุนต่ำ: การส่งอีเมล์มีต้นทุนต่ำกว่าการโฆษณาในสื่ออื่น ๆ เช่น โฆษณาบนสื่อโซเชียล หรือโฆษณาทางการเงิน สามารถวัดผลและติดตามได้: สามารถวัดประสิทธิภาพของแคมเปญ Email Marketing ได้ง่ายโดยตรง โดยการติดตามอัตราการเปิดอีเมล์ อัตราการคลิก และการตอบสนองของผู้รับโดยใช้เครื่องมือ Analysis ต่าง ๆ    กลยุทธ์ทางการตลาดนั้นไม่มีหลักสูตรที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยทั้งประเภทของธุรกิจ เทรนด์ตลาด และอื่น ๆ นำมาประกอบกันเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มลูกค้า รวมทั้งต้องมีการวางแผนในการสร้างคอนเทนต์และเป้าหมายในการทำการตลาดที่ชัดเจน อยากปรึกษาเรื่องการทำการตลาดแบบ B2B หรือ B2C ปรึกษา Crosswalk – Creative Marketing Agency ที่มีครบทุกบริการทางการตลาด พร้อมทีมงานคุณภาพที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี พร้อมสร้าง Branding และวางแพลนการทำการตลาดทั้ง Online และ Offline ให้กับธุรกิจของคุณ

มาเก็ตติ้งชวนเม้าท์! ดูให้ออกยอด REACH vs ยอด IMPRESSIONS

ทำงานยังต้องวัด KPI สำหรับการตลาดออนไลน์นั้นไซร์ต้องมี Insight มาวัดผลเช่นกันจ้า สำหรับคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียนั้นมีเกณฑ์วัดที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ 2 ยอด คือยอด Reach กับยอด Impressions ที่หลายคนก็อาจจะยังสับสนว่าเจ้า 2 ยอดนี้นั้นต่างกันยังไงเอ่ย??   ยอด Reach คือ ยอดที่แสดงจำนวนคนทั้งหมดที่เจอคอนเทนต์หรือโพสต์ ไม่ใช่จำนวนครั้งที่เห็นนะจ๊ะ    ยอด Impressions คือ ยอดที่จำนวนการมองเห็นทั้งหมดที่เห็นคอนเทนต์หรือโพสต์ ไม่ใช่จำนวนคนแต่เป็นจำนวนครั้งจ่ะ    คุณ A โพสต์คอนเทนต์ลงเพจ ได้ REACH 20 ยอด และ Impressions 200 ยอด แปลว่าโพสต์ของคุณ A นั้น มีคนเห็นจำนวน 20 คน มีคนดูจำนวน 200 ครั้ง   ลูกค้าหรือคนส่วนใหญ่จะสับสนระหว่างยอด Reach กับยอด Impressions เพราะมีความคล้ายกันอย่างมากกกกกกกกกกก   ยอด REACH 2 ประเภท 1. ยอด Organic Reach – เป็นเครื่องชี้วัดว่าโพสต์นั้นเป็นคนเทนต์ที่ดี เป็นที่ถูกใจคนกลุ่มใหญ่ทำให้มี Engagments เยอะ จนมีคนเห็นและให้ความสนใจมากขึ้นเองโดนไม่ต้องเสียเงินยิงแอด   2. ยอด Paid Reach – ยอดที่เกิดจากการโฆษณาที่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งสามารถระบุ Target หรือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงกลุ่ม มีแนวโน้มว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าหรือเป้าหมายที่เราต้องการจริง ๆ รวมทั้งได้ข้อมูลตัวชี้วัดต่าง ๆ เพิ่มเติม นำมาคำนวณต้นทุนหรือปรับกลยุทธ์ในการทำคอนเทนต์ของแบรนด์ต่อไปในอนาคตได้นั่นเอง   การทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ต้องโพสต์เยอะ ๆ เท่านั้น แต่คุณภาพของคอนเทนต์ที่เผยแพร่และกลยุทธ์ในการยิงแอดก็มีความสำคัญต่อผลลัพท์เช่นกัน อยากทำการตลาดออนไลน์ให้ปังต้องมีกุนซือที่ดีให้คำปรึกษา อยากให้แบรนด์ติดหู สินค้าติดตลาด มีอินฟลูฯ รีวิว Crosswalk Agency พร้อมลุย!  Crosswalk Agency ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 10 ปี พร้อมช่วยสร้าง Branding วางแพลน Marketing และมีทีม Production คุณภาพให้บริการ สอบถามแพ็คเกจพร้อมรับราคาพิเศษคลิกเลย ที่นี้

มาร์เก็ตติ้งชวนเม้าท์! Green Marketing การตลาดแบบรักษ์โลก

ยุคดิจิตัลที่มีเทคโนโลยีก้าวไกลแต่ยังมีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมอย่างหนัก ทำให้เกิดแนวคิดเรื่อง Green Marketing เป็นไอเดียในการทำการตลาดเกิดขึ้น เพื่อแบรนด์หรือสินค้าเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการ #รักษ์โลก และผู้บริโภคก็มีส่วนร่วมในแนวทางนี้ด้วยกัน   Green marketing (การตลาดสีเขียว) คืออะไร? กรีนมาเก็ตติ้งเป็นกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการสร้างและการโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีผลกระทบต่ำต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการป้องกันการทำลายสิ่งแวดล้อม   อยากจะเม้าว่า Green Marketing มีมานานมากแล้ว และยังคงเป็นคอนเซ็ปต์การตลาดที่ถูกแบรนด์ต่าง ๆ หยิบยกเอามาใช้สื่อสารกับผู้บริโภคเรื่อย ๆ ทำให้การทำการตลาดแบบรักษ์โลกนั้นไม่ใช่เทรนด์ประเดี๋ยวประด๋าว แต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่จริงจัง   ไอเดียทำการตลาด Green Marketing Eco-Friendly Material  หลาย ๆ แบรนด์ให้ความสำคัญกับวัสดุที่ใช้ พร้อมทั้งนำมาเป็นจุดขายของแบรนด์เพิ่ม Gimmic และความน่าสนใจให้สินค้า เช่น แพกเกจจิ้งที่ย่อยสลายได้เอง การนำบรรจุภัณฑ์มาไปใช้ซ้ำ การนำไป DIY เพื่อใช้งานอื่น ๆ เป็นต้น   Green Promotion อาจจะส่งเสริมแคมเปญ Green Marketing ด้วยโปรโมชั่นดี ๆ อย่างการแจกส่วนลด หรือเพิ่มแต้มสะสมพิเศษ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากมีส่วนร่วม เช่น นำแพกเกจจิ้งมารีไซเคิลที่ร้านได้รับส่วนลด 10%, นำแก้วมาใช้ซ้ำได้แต้มสะสมพิเศษ, เอาขวดเปล่ามาแลกชิงโชคลุ้นร่วมกิจกรรมกับพรีเซ้นเตอร์ เป็นต้น   Green Activities นอกจากเรื่อง Branding แล้วแบรนด์ก็ยังสามารถสร้างกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับ Green Activities ได้ด้วย เช่น การจัดงานวิ่งมาราธอนเพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อม กิจกรรมทำภารกิจปล่อยเต่าสู่ทะเล เป็นต้น ซึ่งอาจจะเพิ่มความน่าสนใจให้กิจกรรมด้วยนำ Magnet อย่างดารา อินฟลูฯ หรือพรีเซ็นเตอร์มาร่วมกิจกรรมนี้ด้วย   กำลังมองหาทีมการตลาดเพื่อสร้างเพิ่มพื้นที่ตลาดให้กับแบรนด์ ติดต่อ Crosswalk Agency มีครบทุกบริการทางการตลาดทั้งออนไลน์, อีเวนต์ และออฟไลน์ การันตีทีมงานคุณภาพที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี พร้อมช่วยสร้าง Branding วางแพลน Marketing และมีทีม Production คุณภาพให้บริการ สอบถามแพ็คเกจพร้อมรับราคาพิเศษคลิกเลย ที่นี้

รู้หรือยัง! Social Media กำลังกลายเป็น Search Engine ของผู้บริโภค

ยุคนี้อยากค้นอะไรขึ้นมาระหว่างไถหน้าจอก็ไม่ต้องออกจากแอปฯ โซเชียลมีเดียให้เสียเวลา เพราะตอนนี้โซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์มเริ่มมีฟังก์ชั่น Search Engine ให้แล้วจ้า นำร่องมาโดย TikTok เจ้าใหญ่เจ้าเดิมและเป็นเจ้าแรกที่บุกเบิกฟังก์ชั่นนี้บน Social Media   การที่ Social Media แพลตฟอร์มนั้นผันตัวมาเป็น Search Engine ส่งผลอะไรต่อการทำการตลาดของแบรนด์ ? คำตอบ … แบรนด์ที่มีคอนเทนต์อยู่ในแต่ละแพลตฟอร์มเยอะ ๆ จะเป็นคนที่ได้เปรียบนั่นเอง เมื่อผู้บริโภคเสิร์ชสิ่งที่ค้นหาขึ้นมา และคอนเทนต์ของแบรนด์อยู่ในหมวดหรือใกล้เคียงกับคำที่ค้นหา AI ก็จะทำหน้าที่เสิร์ฟคอนเทนต์ของแบรนด์ให้ผู้บริโภคได้เห็นคอนเทนต์นี้ เป็นการเพิ่มการเข้าถึงของแบรนด์เพิ่มขึ้นด้วย   ปี 2024 นี้โซเชียลมีเดียที่มาเเรงก็ยังคงเป็น TikTok เช่นเดิม สินค้าตัวไหนมีคอนเทนต์รีวิวจากช่องต่าง ๆ เยอะ ๆ ถ้าผู้บริโภคมาเสิร์ชหาคอนเทนต์จากช่องต่าง ๆ ก็จะขึ้นมาพร้อม ๆ กันซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้สินค้าได้อีกด้วย   ถ้าแบรนด์กำลังสนใจหา Influncer มารีวิวสินค้าของตัวเอง อย่ามองข้ามช่องทาง TikTok เป็นอันขาด อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็น Influncer ตัวใหญ่หลายคนที่ราคาอาจจะเกินงบไปหน่อย แต่อาศัยเป็น Nano-influncer หลาย ๆ คนที่ลงคอนเทนต์ช่วงเวลาก็จะช่วยสร้างปรากฏการณ์เพิ่มความน่าใช้น่าลองให้กับสินค้าได้เช่นกัน    ปีนี้อยากลุยการตลาดจริงจังต้องมีกุนซือที่ดีให้คำปรึกษา อยากให้แบรนด์ติดหู สินค้าติดตลาด มีอินฟลูฯรีวิว Crosswalk Agency พร้อมลุย! Crosswalk Agency ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 10 ปี พร้อมช่วยสร้าง Branding วางแพลน Marketing และมีทีม Production คุณภาพให้บริการ สอบถามแพ็คเกจพร้อมรับราคาพิเศษคลิกเลย ที่นี้

มาร์เก็ตติ้งชวนเม้าท์! เทรนด์สีปี 2024 ไว้ใช้ทำคอนเทนต์

ได้เวลามาเม้ามอยเรื่องโทนสีประจำปี 2024 กันหน่อยค่า โทนสีที่ได้รับความนิยม,ydถูกให้ความสำคัญในงานด้านแฟชั่น, การออกแบบ, และศิลปะ ซึ่งเรื่องสี ๆ มีความสำคัญมาก ๆ ในการทำงานคอนเทนต์ เพราะโทนสีมักมีผลกับความรู้สึกเสมอ .. เคยโดนลูกค้าขอเพิ่ม Feeling ในชิ้นงานที่ส่งตรวจกันใช่มั้ยละ? ชาวกราฟฟิกก็ต้องแก้ที่โทนสีให้เป็นไปตาม Feel ที่ลูกค้าอยากได้ งั้นมาอัพเดตสีประจำปีทั้ง 7 โทนจาก E-book “เจาะเทรนด์โลก 2024” กันหน่อย จะได้เอาไว้ช่วยให้ชาวมาร์เก็ตติ้งอย่างเราเอาไว้เสนอลูกค้าได้จ้า   1. Rich Gold (Pantone 16-0836 TCX) ทองอมเบจไม่วิ้งวับแต่เรียบหรูผู้ดี เน้นความเรียบง่ายแต่ยังคงความหรูหราเอาไว้ เหมาะสำหรับสินค้าหรือแบรนด์ที่ต้องการทำคอนเทนต์ในมู้ดแบบ Premuim   2. Coral Gold (Pantone 16-1337 TCX) ส้มอิฐสไตล์ Old Money โทนส้มอิฐเพิ่มชีวิตชีวาให้กับสีทองขึ้นอีกนิดแบบไม่ตะโกน สำหรับลูกค้าที่อยากให้คอนเทนต์มีความหรูแต่ก็ดูไม่เรียบจนเกินไป   3. Butterfly Green (Pantone 12-0322 TCX) เขียวอ่อนทันสมัย ความโมเดิร์นที่รักษ์โลก ผสมผสานความโมเดิร์นของยุคสมัยให้เข้ากับสีแห่งธรรมชาติอย่างสีเขียวได้อย่างลงตัว เหมาะกับคอนเทนต์สินค้าที่อยากพรีเซ้นความทันสมัยหรือเทคโนโลยีจ๋า ๆ แต่ก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม   4. Capri (Pantone 15-4722 TCX) ฟ้าฟ้าเทอควอยส์ความมีชีวิตชีวาที่แสนสดชื่น น้ำทะเลที่โดนแสงแดดสะท้อนมันช่างดูมีชีวิตชีวา ช่วยปลุกให้ความสร้างสรรค์ภายในตื่นตัว เหมาะสำหรับคอนเทนต์พวกแฟชั่นหรือสินค้าที่มีความ Unique ในตัวเอง   5. Raspberry Rose (Pantone 18-2333 TCX) ชมพูแสบสันพร้อมสนุกสนานไปกับทุกอย่าง ลูกค้าคนไหนชอบความจี๊ดจ๊าดสุดติ่งเอาสีนี้เสนอก่อนได้เลย ความชมพูที่ตะโกนตั้งแต่ดาวอังคาร เป็นชมพูที่พร้อมลุย พร้อมสนุก พร้อมโมเดิร์นไปกับทุกคอนเทนต์ เหมาะกับคอนเทนต์ที่เน้นความสดใสจี๊ดจ๊าดเป็นหลัก หรือเอาไปประยุกต์กับสินค้าอาหารฟิวชั่นก็น่าจะเลิศนะ   6. Violet Storm (Pantone 18-3944 TCX) ม่วงแบบกลมกล่อม เพื่อความเท่าเทียมของทุกคน สีม่วง 2024 จะไม่ใช่สีแม่หม้ายอีกต่อไป เพราะสีม่วงจะเป็นตัวเเทนแห่งความเท่าเทียมของยุค เหมาะสำหรับงานคอนเทนต์ที่เน้นไป Unisex หรือสินค้าที่เหมาะกับทุกคน    7. Pinecone (Pantone 19-1121 TCX) น้ำตาลเรียบ ๆ แต่ยั่งยืน น้ำตาลเรียบ ๆ แต่ใช้ได้ทุกยุค เหมาะกับงานที่มีคุณค่าทางจิตใจ านที่สะท้อนวัฒนธรรมพื้นบ้าน งานที่สร้างสรรค์จากวัสดุธรรมชาติ งานคราฟต์ เป็นต้น   โทนสีทั้ง 7 อาจจะไม่ใช่สีที่ดีที่สุดหรือเหมาะกับลูกค้าทุกคน แต่อัพเดตเอาไว้เป็นแนวทางสำหรับใช้ในงานกราฟิคหรืองานคอนเทนต์ในปี 2024 ไว้กันก็ดีเนอะ เผื่อลูกค้าถูกใจจะได้ไม่ต้องคิดเยอะแยะ   อยากให้แบรนด์ติดหู สินค้าติดตลาด มีอินฟลูฯรีวิว Crosswalk Agency พร้อมลุย! Crosswalk Agency ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 10 ปี พร้อมช่วยสร้าง Branding วางแพลน Marketing และมีทีม Production คุณภาพให้บริการ

Marketing ชวนเมาท์! เทรนด์การตลาด 2024

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่าาา … ใกล้ปีใหม่ปีมังกร 2024 กันแบบนี้ ต้องมาอัพเดตกันนิดนึงว่าเทรนด์การตลาดปี 2024 จะมีอะไรใหม่ ๆ มาให้พวกเราได้สนุกกันบ้าง อาจจะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาให้เราลองใช้ เพราะโลกยุคใหม่ที่มีนวัตกรรมใหม่ไม่หยุดหย่อน พวกเราชาวการตลาดก็ต้องตามให้ทันกันเนอะ!   Data-Driven Marketing เก็บดาต้าเป็นไม่พอ ต้องหาดาต้าให้เก่ง! การเก็บดาต้าของลูกค้าหรือผู้บริโภคกลายเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับการทำการตลาดไปแล้วในปี 2023 แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาสำหรับนักการตลาดในปี 2024 นี้ คือการหาดาต้าให้เป็น! เพราะตอนนี้เรื่องความเป็นส่วนหรือ Privacy เป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญอย่างมาก ทำให้การเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นมีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นในการเก็บ DATA ของผู้บริโภคอาจจะต้องใช้ Creative Skills เข้ามาช่วย เพื่อให้ผู้บริโภคหรือลูกค้ายินยอมที่จะให้เก็บข้อมูลอย่างเต็มใจ    2. Social Listening เครื่องมือไม่ใหม่ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้จัก สำหรับบริษัทหรือแบรนด์ใหญ่ ๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรในการใช้ Social Listening ในการทำการตลาด แต่สำหรับ Start-up หรือธุรกิจ SMEs อาจจะเคยได้ยินแต่ยังไม่เคยได้ลองใช้ เพราะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงของเครื่องมือ Social Listening แต่ในปี 2024 มีเครื่องมือ Social Listening ให้เลือกใช้ในราคาที่น่ารักสำหรับธุรกิจเล็ก ๆ มากขึ้น เพราะมีตั้งแต่ลองใช้ฟรีไปจนถึงราคาหลักพัน  สำหรับใครอยากรู้ว่า Social Listening คืออะไร? สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ … https://crosswalkagency.com/social-listening/   3. Affiliate Marketing ขั้นกว่าของการตลาดแบบปากต่อปาก เมื่อ 2-3 ปีก่อน ผู้บริโภคมักเลือกซื้อของตามดารา คนดัง หรือเซเลปบริตี้ที่ตัวเองชื่นชอบ การทำ Affiliate Marketing เพิ่งมาได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ แต่กลับได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดี เพราะตัวผู้บริโภคหรือลูกค้าสามารถหารายได้เสริมจากสินค้าที่ตัวเองซื้อใช้เป็นประจำด้วย การที่ Affiliate Marketing ได้รับความนิยมในตอนนี้ เพราะรู้สึกถึงความเชื่อใจระหว่างผู้บริโภคด้วยกันเองมากกว่า ทำให้ผู้บริโภคหลายคนผันตัวมาเป็น Creator บอกต่อสินค้าที่ใช้แล้วดีต่อ ๆ กันไป เหมือนเป็นการตลาดแบบปากต่อปากแต่อยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยการแปะลิงก์สินค้าใน Social Media ของตัวเองหรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ แม้ว่าหลายคนจะทราบดีอยู่เเล้วว่า Affiliate Marketing นั้นเป็นการทำรายได้ แต่ก็มาจากผู้บริโภคที่ใช้สินค้าจริง ๆ ที่มาทำคอนเทนต์ให้สินค้าหรือแบรนด์ด้วยความเต็มใจ    4. AI นวัตกรรมสุดล้ำ นักการตลาดต้องฉลาดใช้ เทคโนโลยี AI ที่ยังคงเป้นที่ถกเถียงกันทั่วโลกว่าจะมาช่วยมนุษย์ให้ทำงานง่ายขึ้น หรือมาแย่งอาชีพของมนุษย์ รวมทั้งในหลักมนุษยธรรมต่าง ๆ ที่ยังไม่สามารถตัดสินอย่างชัดเจนได้ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ AI นั้นสามารถช่วยนักการตลาดให้งานง่ายขึ้นได้ ถ้ารู้วิธีการใช้และนำมาประยุกต์ใช้งาน ช่วงกลางปีหลังน่าจะเห็นกระแสการ Generate รูปภาพด้วย AI ที่สวยงามไม่แพ้งานวาดจากอาร์ตติส หรือจะเป็นการหาข้อมูลในเรื่องต่างด้วยการพิมพ์หัวข้อเข้าไป  เทรนด์การตลาดปี 2024 ต้องมีเทคโนโลยีของ AI ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน แต่จะมากน้อยแค่ไหนอาจจะต้องจับตาดูกันต่อไป….   การทำการตลาดในแต่ละปีมักต้องเปลี่ยนตามกระแสหรือเทรนด์ของปีนั้น ๆ รวมทั้งต้องตามให้ทัน Technology ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันให้ทัน นักการตลาดก็เหมือนนักวิ่งมาราธอนที่ต้องวิ่งให้ทันเทรนด์เพื่อจะได้ถึงเส้นชัยในแต่ละสนาม เพราะฉะนั้นอย่าลืมเตรียมร่างกายให้ทันเทรนด์กันนะคะ 🙂ติดตามข่าวสารการตลาดได้ตลอดเวลาที่ Crosswalk Agency ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 10 ปี ไม่ว่าจะสินค้าประเภทไหนก็พร้อมลุยทุกตลาด!  

Marketing ชวนเม้าท์ ! NPC ใน TikTok คืออะไร?

หลาย ๆ คนเข้า TikTok แล้วน่าจะเคยเห็นไลฟ์ NPC กันมาบ้าง สำหรับสายเกมส์ก็คงจะเข้าใจได้อย่างง่ายว่า NPC คืออะไร? แต่สำหรับหลายคนที่ยังสงสาย NPC ที่กำลัง Hot ในเหล่าติ๊กต่อกเกอร์นั้นคืออะไร .. วันนี้ Crosswalk ชวนมาเม้ากันค่ะ   NPC ย่อมาจาก Non-player Character ก็คือตัวละครภายในเกมส์ที่ผู้เล่นไม่สามารถควบคุมได้นั่นเอง ซึ่ง NPC Live หรือ NPC Streaming กำลังฮอตฮิตอย่างมากบน TikTok ตั้งแต่ปี 2022 จนตอนนี้กำลังเทรนด์ของชาวติ๊กต่อกคนไทย NPC Streamers คือผู้ใช้ TikTok ต้องสวมบทเป็นตัวละครในเกมส์ เช่น ตำรวจ ชาวบ้านหรือภูตต่าง ๆ เหล่าชาว TikTok จะต้องสวมบทเป็น NPC Streamers ต้องทำตัวให้เหมือนคาแรกเตอร์ต้นแบบและทำตามที่ผู้ชมขอเป็นการให้ความบันเทิงทั้ง 2 ฝ่าย ฝั่งติ๊กต่อกเกอร์ที่เป็น NPC ได้สนุกที่ได้สวมบทบาท ส่วนฝั่งผู้ชมได้ความสนุกในการดูท่าทางของ NPC ที่มีชีวิตและอาจจะมีส่วนร่วมกำหนดท่าทางด้วยการส่ง gift หรือดอกไม้เป็นกำลังใจให้ NPC ซึ่งรายได้ของ NPC ก็มาจากเหล่าของขวัญและดอกไม้ที่ผู้ชมกดให้กำลังใจนั่นเอง    สำหรับ Brand ที่กำลังหช่องทางทำการตลาดผ่าน NPC Streaming ก็สามารถทำได้ด้วยช่องของแบรนด์เอง หรือให้เหล่าดาว TikTok ทำ NPC แล้วนำสินค้าของแบรนด์เข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อโปรโมตด้วย  แต่ถ้ายังติดสินใจไม่ได้ว่าอย่างจะทำ NPC หรือทำ Marketing ยังไงให้เข้ากับแบรนด์ก็สามารถมาเม้ามอยกับ Crosswalk กันได้ พร้อมเม้าเรื่องการทำการตลาดปัง ๆ ที่ได้ผลลัพธ์ตรงตามเป้าหมาย ทั้งการตลาดออนไลน์ ทั้งการโปรโมทสินค้า การทำโฆษณาออนไลน์ หรือทำเว็บไซต์ของแบรนด์ ทีมงาน Crosswalk ของพวกเรามีผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 10 ปี ไม่ว่าจะสินค้าประเภทไหนก็พร้อมลุยทุกตลาด!  

Marketing ชวนเม้าท์ ! Social Listening คืออะไร?

การทำการตลาด DATA เป็น Sourcing ที่สำคัญสุด ๆ อาจจะต้องขอบคุณคนผลิตโปรแแกรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้ชีวิตนักการตลาดทำงานได้ง่ายขึ้น! อยากชวนเม้าท์เรื่อง Social Listening เครื่องมือมาเก็ตติ้งที่นักการตลาดและมาเก็ตติ้งของแบรนด์ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้เราได้ทั้งข้อมูลที่ลูกค้าต้องการและฟีดแบ็กของลูกค้าจากทั่วพื้นที่ของอินเตอร์เน็ต   Social Listening คืออะไร? Social Listening เป็นเครื่องมือเทคโนโลยีใช้วิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์เพื่อติดตามความคิดเห็น, ความรู้สึก, และการพูดคุยของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในสังคมออนไลน์ เช่นในโซเชียลมีเดีย เป็นต้น โดยปกติ Social Listening มักใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม, และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่เป็นออกเล็ตออนไลน์ เพื่อให้แบรนด์จะได้รับรู้ว่าลูกค้าหรือผู้คนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเอง   เครื่องมือ Social Listening นักการตลาดน่าจะคุ้นเคยกับเจ้าเครื่องมือนี้มากันบ้าง แต่อาจจะยังไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกใช้เครื่องมือตัวไหนที่จะเหมาะสมกับแบรนด์หรือสินค้าของตัวเอง วันนี้ Crosswalk เอาบางเครื่องมือ Social Listening ที่คุณอาจสนใจมาเป็นช้อยให้ลองเล่นกันดูก่อนได้ค่ะ   Brandwatch: เครื่องมือ Social Listening ที่ให้คุณตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า, แนวโน้มในตลาด, และการพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ Hootsuite: เครื่องมือการตลาดแบบออลอินวัน (All-in-One) ที่รวมการตั้งตารางการโพสต์ในโซเชียลมีเดียและเครื่องมือ Social Listening ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อตรวจสอบการกิจกรรมของบริษัทของคุณในโซเชียลมีเดีย Mention: เครื่องมือ Social Listening ที่ช่วยคุณตรวจสอบการพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์, คีย์เวิร์ดที่สำคัญ, และแนวโน้มในโซเชียลมีเดียและสังคมออนไลน์อื่น ๆ Sprout Social: แพลตฟอร์มการตลาดที่รวมการวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและการวางแผนการโพสต์ในโซเชียลมีเดียเพื่อให้การตลาดของคุณมีประสิทธิภาพ Talkwalker: เครื่องมือ Social Listening ที่ใช้ในการค้นหาแนวโน้มใหม่ ๆ และวิเคราะห์ข้อมูลที่มาจากโซเชียลมีเดียและสังคมออนไลน์เพื่อให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าของตนเป็นอย่างดี Google Alerts: บริการฟรีที่ทำให้คุณสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อมีการกล่าวถึงคีย์เวิร์ดหรือข้อมูลที่คุณสนใจในเว็บไซต์, ข่าว, บล็อก, หรือโซเชียลมีเดีย Awario: เครื่องมือ Social Listening ที่ช่วยในการตรวจสอบการพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์, คู่แข่ง, และคีย์เวิร์ดที่สำคัญในโซเชียลมีเดียและบล็อก Falcon.io: แพลตฟอร์มการตลาดที่รวมการตั้งตารางการโพสต์ในโซเชียลมีเดียและเครื่องมือ Social Listening เพื่อจัดการความรู้สึกของลูกค้าและติดตามการพูดคุย   การเลือกเครื่องมือ Social Listening ที่เหมาะกับความต้องการของแบรนด์หรือธุรกิจ เพื่อใช้ข้อมูลที่ได้รับจากการตลาด Social Listening เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด, ปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการ, และสร้างความรู้สึกในตลาดที่เป็นประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ถ้าอยากทำการตลาดปัง ๆ เพื่อได้ผลลัพธ์ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ ทั้งการตลาด การทำโฆษณาออนไลน์ หรือทำเว็บไซต์ของแบรนด์ ทีมงาน Crosswalk ของพวกเรามีผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 10 ปี ไม่ว่าจะสินค้าประเภทไหนก็พร้อมลุยทุกตลาด!

Marketing ชวนเม้าท์! 5 เทรนด์การช้อปยุคดิจิตัล

เทรนด์การตลาดประเทศไทยเปลี่ยนไวสุด ๆ เรียกได้ว่าผายลมยังไม่ทันหายเหม็นก็เปลี่ยนไปอีกแล้ว แต่นักการตลาดอย่างเรานั้น Don’t Care ไวแค่ไหนก็อัพเดตทันแน่น้อนนนนนน!! นักการตลาดกับสายช้อปปิ้งเป็นของคู่กันคู่กรรม ถ้าพฤติกรรมนักช้อปเปลี่ยนไปมาเก็ตติ้งอย่างเราก้ต้องอ้อมไปดักทางเอาใจขาช้อปให้ทัน ซึ่งเป็น The Mission สุดท้าทายว่าจะทำยังไงให้สินค้าของลูกค้าหรือของแบรนด์ต่าง ๆ ถูกใจขาช้อปยุคดิจิตัลให้มากที่สุด!   1. มาเก็ตเพลสบนแพลตฟอร์มโซเชียล ถ้าพูดถึงการช้อปปิ้งออนไลน์เมื่อก่อนคนมักจะนึกถึง LAZADA, Shoppee หรือมาเก็ตเพลสอื่น ๆ แต่ตอนนี้แม้แต่บน Social Media ก็มีมาเก็ตเพลสให้เหล่าขาช้อปได้ช้อปปิ้งกันเเล้ว โดยเฉพาะ TikTok ที่ตอนนี้มากแรงสุด ๆ เพราะนอกจากจะมีพื้นที่ให้แบรนด์ขายสินค้าแล้ว ในฝั่งของเหล่านักช้อปก็เอากำไรคืนหรือหารายได้เพิ่มได้ด้วยการทำ Affaliating กับแบรนด์ของสินค้านั้น ๆ แม้กระทั่งในฝั่งของ Facbook และ Instragam ก็มีมาเก็ตเพลสเช่นกัน สำหรับจะเลือกโปรโมตหรือขายสินค้าบนแพลตฟอร์มไหนอาจจะต้องกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พฤติกรรมของลูกค้า และความเหมาะสมของสินค้าแล้วตัดสินใจลุยกันได้เลย   2. คอนเทนต์ต้องปังได้ใจ สินค้าที่เหมือนกันในตลาดมีมากมาย… แต่ถ้าแบรนด์ไหนทำคอนเทนต์ได้เจ๋งจนลูกค้าประทับอกประทับใจย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะคอนเทนต์ของสินค้าที่สื่อสารออกมามีส่วนช่วยในการตัดสินใจในการซื้อสินค้าของลูกค้ามากกว่า 50% รวมทั้งการเลือกใช้ Presenter หรือ Influnencer สำหรับคอนเทนต์ของสินค้าชิ้นนั้นด้วย เรียกได้ว่านอกจากแบรนด์จะต้องขายสินค้าแล้วจะต้องขายความ Creative ออกมาให้โดนใจลูกค้าอีกด้วย   3. ราคาไม่เกี่ยงถ้ามีรีวิวเยอะ สินค้าราคาถูกไ่ได้แปลว่าจะขายดีเสมอไป โดยเฉพาะการช้อปปิ้งออนไลน์ที่มีความเสี่ยงที่สินค้าจะไม่ตรงปกอย่างมาก ดังนั้นร้านค้าที่มีลูกค้ามาคอมเมนต์รีวิวและให้ดาวเยอะ ๆ ย่อมทำให้เหล่านักช้อปมีความมั่นใจในสินค้ามากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่เคยสั่งซื้อหรือเห็นสินค้าจริงมาก่อนก็ตาม เพราะฉะนั้นการขายราคาถูกแต่สินค้าด้อยคุณภาพอาจจะอยู่ไ้ม่นานเท่า ร้านที่ราคากลาง ๆ แต่รีวิวแน่น ๆ   4. หน้าร้านไม่ต้องมี แต่ต้องมีความน่าเชื่อถือ การเพิ่มความหน้าเชื่อถือให้กับแบรนด์หรือร้านค้านั้นต้องมีองค์ประกอบที่หลากหลายมารวมกัน ถ้าเป็นร้านออนไลน์ก็ต้องมีบัญชี Social Media ที่อัพเดตสม่ำเสมอ การทำโฆษณาต่าง ๆ เพื่อให้คนเห้นเป็นประจำ การทำเว็บไซต์หรือร้านในมาเก็ตเพลสต่าง ๆ เพื่อให้เป็นเหมือนหน้าร้านจำลองที่ลูกค้าเข้ามาชมสินค้า รวมทั้งรีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าไป องค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์ออนไลน์มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น   5. จ่ายง่าย ๆ อย่ายุ่งยาก มนุษย์เรามีความขี้เกียจในตัวเองสูง เหล่านักช้อปเองก็เช่นกัน ถ้ากดซื้อของมาเต็มตะกร้าแต่ขั้นตอนจ่ายเงินยากเย็นเหลือเกิน นักช้อปที่พร้อมจ่ายก็อาจจะเปลี่ยนใจไปซื้อร้านอื่นเเทน ดังนั้นในเรื่องของ Payment ก็เป็นอีกส่วนที่แบรนด์และนักการตลาดไม่ควรมองข้าม ถ้าอยากจะมัดใจให้นักช้อปที่พร้อมเปย์เงินซื้อสินค้า   เทรนด์ในยุคดิจิทัลทั้งห้าเน้นการสะดวกสบาย, การปรับปรุงประสิทธิภาพ, และการใช้เทคโนโลยีในกระบวนการการช้อปเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปที่ดีขึ้นสำหรับเหล่านักช้อป หากต้องการปรึกษาเรื่องการตลาด การทำโฆษณาออนไลน์ หรือทำเว็บไซต์ของแบรนด์ ทีมงาน Crosswalk ของพวกเรามีผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 10 ปี ไม่ว่าจะสินค้าประเภทไหนก็พร้อมลุยทุกตลาด!